หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
“ทำไมต้อง” ล้างแอร์แบบตัดล้าง
การตัดล้างใหญ่หรือว่าการตัดล้างออกจากระบบ
เรียกได้ว่าเป็นการล้างแอร์ 100% หรือการล้างลักษณะนี้มีการถอดชิ้นส่วนแอร์ออกมา 100% เป็นการตัดคอยล์เย็นของแอร์มาทำการล้างด้านล่าง เมื่อล้างเรียบร้อยแล้วก็นำกลับไปประกอบเข้าที่เดิมและทำการแวคคั่มระบบเติมน้ำยาเข้าระบบใหม่ จะล้างแบบนี้ในกรณีที่แอร์ของเราใช้งานมานาน 3-5 ปี จนแอร์เกิดอาการไม่ปกติ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้สำหรับแอร์ที่ไม่สามารถถอดรางน้ำทิ้งออกจากตัวแอร์ได้ และไม่สามารถล้างถาดน้ำทิ้งที่ด้านหลังของแอร์ได้และแผงคอยล์เย็นด้านบนก็ไม่สามารถล้างได้เช่นกัน จึงต้องมีทำการล้างใหญ่ 3-5 ปีต่อครั้ง (ขึ้นอยู่ตามสภาพแวดล้อม) เช่น แอร์แบบติดผนังที่เกิดอาการน้ำรั่วซ้ำ ๆ ทั้งที่ได้ทำการล้างแอร์ไปแล้วเมื่อไม่นานนี้ หรือว่ามีอาการน้ำหยด
อาการของแอร์ที่ควรล้างแบบตัดล้าง ตัวอย่างเช่น
ข้อดี คือล้างได้สะอาดหมดจด 100% เพราะแกะออกมาล้างทุกชิ้นและนำมาแช่น้ำยาหรือล้างด้วยน้ำยาล้างคอยล์ทุกชิ้น ทิ้งไว้สักระยะเพื่อกัดเซาะคราบสกปรกที่ฝังแน่นเป็นเวลานานให้ออกให้หมด หลังจากนั้น ช่างจะใช้ปั้มน้ำแรงดันสูงฉีดล้างทำความสะอาดรังผึ้งแอร์อีกครั้งจนแผงคอยล์แอร์ขาวสะอาด จากนั้นนำชิ้นส่วนที่ถอดมาล้างทุกชิ้น นำมาประกอบชิ้นส่วนเข้าที่เดิม เพื่อรอนำไปติดตั้งในตำแหน่งที่ถอดออกมาพร้อมทั้งเติมน้ำยาแอร์ให้เต็มระบบ ขั้นตอนการตัดล้างใหญ่ละเอียดแบบนี้เหมือนติดตั้งแอร์ใหม่ แอร์ของเราก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเย็นฉ่ำชื่นใจ
ล้างแอร์แบบธรรมดา และตัดล้าง แตกต่างกันอย่างไร
การล้างแอร์ธรรมดาเป็นการถอดชิ้นส่วนแอร์ออกมา 50% ของทั้งหมด หรือ การล้างด้วยปั้มน้ำแรงดันสูงเป็นการฉีดล้างทำความสะอาด หน้ากากแอร์, แผ่น Filter, แผงคอยล์เย็นด้านหน้า, พัดลมโพรงกระรอก ด้วยปั๊มแรงดันสูงลงน้ำยาล้างแอร์ ล้างอุปกรณ์แอร์ทุกชิ้นที่สามารถล้างได้ และทำการเป่าชิ้นส่วนให้แห้งเพื่อรอนำมาประกอบใส่ที่เดิมทุกชิ้นให้เรียบร้อย (การล้างแอร์แบบธรรมดา ไม่สามารถล้างแผงคอยล์เย็นด้านในและด้านบน รวมถึงถาดน้ำทิ้งบริเวณด้านหลังของตัวแอร์ก็ไม่สามารถล้างได้)
วิธีการล้างแอร์แบบธรรมดา จะทำการล้างถอดหน้ากากแอร์ของตัวคอยล์เย็นและอุปกรณ์ต่างๆ แต่ไม่ได้ยกตัวแอร์ลงมาล้างทำความสะอาด เพราะเป็นการล้างแบบธรรมดาต่อจากนั้นใช้ผ้าใบคลุมตัวแอร์ ด้านในเพื่อทำการฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อทำความสะอาดชำระล้างสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ทั้งภายในและภายนอกของตัวคอยล์เย็น และล้างแผงรังผึ้งใบพัดแอร์ล้างโพรงกระรอก และล้างตัวคอยล์ร้อนหรือเรียกว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ แล้วทำการล้างด้วยปั๊มแรงดันสูงและล้างแต่ละส่วนอุปกรณ์ทุกชิ้น แล้วนำมาทำการเป่าให้แห้งก่อน แล้วจึงนำกลับไปประกอบเข้าที่เดิม
ยกตัวอย่างอาการที่ควรล้างแบบธรรมดา เช่น
ข้อดี ของการล้างแอร์การล้างแอร์เป็นประจำช่วยประหยัดค่าไฟมากขึ้นกว่าเดิม เพราะการทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะสะสมจะช่วยลดการทำงานของคอมพิวเตอร์ รวมถึงบริเวณแผงคอยล์ร้อนและแผงคอยล์เย็นได้ ลดอาการอุดตันของอุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยให้แอร์ทำงานได้ตามปกติโดยไม่กินไฟเพิ่มขึ้น จึงควรล้างแอร์ทุก 4-6 เดือนต่อครั้ง แต่หากอยู่ในบริเวณที่ฝุ่นเยอะก็ควรล้างบ่อยขึ้น การล้างแอร์ช่วยลดความเสี่ยงและสาเหตุของอาการขัดข้องต่าง ๆ ของแอร์ ทำให้ลดรายจ่ายในการซ่อมแซม การล้างแอร์ช่วยทำให้แอร์มีประสิทธิภาพในการทำงานเต็มที่ ให้อากาศเย็นฉ่ำช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่างๆ เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียและฝุ่นละอองอันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจของเราและช่วยลดกลิ่นอับและกลิ่นเหม็นที่เกิดจากการสะสมของเชื้อราในตัวเครื่องการล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอลดปัญหาการเกิดน้ำแอร์หยดจากการอุดตันของท่อระบายน้ำทิ้งได้ ทำให้ลดความเสี่ยงจากอันตรายของไฟฟ้าลัดวงจรและอาการน้ำแข็งเกาะภายในตัวเครื่อง
การตัดล้างใหญ่และการล้างแอร์ธรรมดาแตกต่างกันที่ความสะอาด การตัดล้างใหญ่จะช่วยให้แอร์สะอาดมากกว่าแต่ราคาค่อนข้างสูง ถ้าแอร์ของเราล้างอย่างสม่ำเสมอและไม่ได้มีปัญหามีน้ำหยดน้ำไหลออกจากตัวเครื่องการล้างแอร์แบบธรรมดาก็เพียงพอแล้ว
กรุงเทพฯ และปริมณฑล
สมุทรปราการ, ปทุมธานี, นนทบุรี, กรุงเทพมหานคร
ภาคเหนือ
อุทัยธานี, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, ลำปาง, พิจิตร, กำแพงเพชร, เชียงราย
ภาคใต้
สตูล, สงขลา, ยะลา, ภูเก็ต, พัทลุง, ปัตตานี, นราธิวาส, นครศรีธรรมราช, ตรัง
ภาคกลาง
อ่างทอง, สิงห์บุรี, สระแก้ว, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, ลพบุรี, ราชบุรี, ระยอง, พระนครศรีอยุธยา, ประจวบคีรีขันธ์, นครปฐม, นครนายก, ชัยนาท, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, จันทบุรี, กาญจนบุรี, เพชรบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี, อุดรธานี, อำนาจเจริญ, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, มุกดาหาร, นครราชสีมา, นครพนม, ชัยภูมิ, ขอนแก่น
ขั้นตอนเข้าพบลูกค้าและเตรียมหน้างานและตรวจสอบ
1. ช่างโทรยืนยันลูกค้า 2 ครั้ง
2. เข้าพบลูกค้าตามวันนัดหมาย
3. ขออนุญาตลูกค้าก่อนปฏิบัติงาน
4. ช่างจะทำการตรวจสอบเครื่องปรับอากาศก่อนทำการตัดล้าง เช่น รีโมทแอร์, สถานะไฟหน้าเครื่อง, บานสวิง, วัดอุณหภูมิตอนล้าง, วัดแรงลมก่อนล้าง, วัดค่าการกินกระแสไฟ, วัดแรงดันระดับน้ำยาในระบบ, พร้อมใช้แบบฟอร์มในการตรวจสอบร่วมด้วย
5. ขออนุญาตลูกค้าก่อนปฏิบัติงาน
6. เตรียมพื้นที่
2. ขั้นตอนการให้บริการ (การตัดล้างแอร์)
3. ขั้นตอนการทำความสะอาดหน้างานและส่งมอบงานให้กับลูกค้า
เงื่อนไขการรับประกัน
ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับประกันในกรณีต่อไปนี้
แอร์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ จะมีถาดรองน้ำทิ้งอีก1ชุด อยู่ด้านบนและด้านหลังเครื่อง แนบชิดกับผนังของตัวบ้าน ซึ่งการล้างแอร์ปกติ จะไม่สามารถทำการล้างถาดรองน้ำทิ้งชุดนี้ได้ แอร์ที่มีการใช้งานหนักจะเจอปัญหานี้หลังจากติดตั้งแอร์มาแล้ว 3-5 ปีขึ้นไป(ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม) เนื่องจากเกิดการสะสมของฝุ่นและน้ำ ทำให้เกิดก้อนเมือก ก้อนวุ้น เกาะหนาแน่นบริเวณถาดรองน้ำทิ้งด้านหลังแอร์ ทำให้การระบายน้ำทิ้งทำได้ไม่สะดวก น้ำจึงล้นถาดหลังออกมาที่หน้าเครื่อง และแผงรังผึ้งของคอยล์เย็นบริเวณด้านบนก็เช่นกันส่วนใหญ่จะไม่สามารถฉีดล้างได้เพราะติดกับผนังด้านบน และแผงรังผึ้งการล้างแอร์แบบปกติจะเป็นการฉีดนอกเข้าในก็สะอาดในระดับหนึ่ง แต่ไม่เหมือนการตัดล้างหรือการล้างใหญ่ การฉีดล้างจะสะอาดกว่าแบบล้างแอร์ปกติเพราะจะฉีดล้างด้านนอกด้านในได้ การติดตั้งก็เหมือนกัน ติดตั้งไม่ได้มาตรฐานติดชิดกับเพดานด้านบนมากเกินไปจนทำให้เป็นสาเหตุทำให้ช่างไม่สามารถฉีดล้างบริเวณแผงคอยล์เย็นได้
ความคิดเห็น